นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทตระหนักและให้ความสำคัญกับการเก็บรวบรวมและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการทุกท่านไว้เป็นความลับ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในการดำเนินงานและให้บริการบริษัทแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ บริษัทจึงมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ในบางกรณี) โดยบริษัทขอยืนยันว่า

  • บริษัทจะใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอย่างถูกต้อง และภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนดอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย
  • บริษัทสนับสนุนให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
  • บริษัทมีระบบรักษาความปลอดภัยและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่คุ้มครองและให้ความปลอดภัยกับความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตา
    มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
  • บริษัทจะจัดทำระบบและใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ

ด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่ออธิบายถึงวิธีการและแนวทางการดำเนินการที่บริษัทจะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ อาทิ การใช้ การรวบรวม การจัดเก็บ การเปิดเผย การรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่างๆ ของผู้ใช้บริการ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการทุกท่าน บริษัทจึงขอแนะนำผู้ใช้บริการทำความเข้าใจนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอย่างละเอียด ต่อไปนี้

1. แนวทางการดำเนินการของบริษัท
2. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
3. หลักการในการเก็บรวบรวมและประมวณผลข้อมูลส่วนบุคคล
4. หลักเกณฑ์ทางกฎหมายสำหรับการใช้ รวบรวม จัดเก็บ และเปิดเผย – ข้อมูลส่วนบุคคล
5. หลักเกณฑ์ทางกฎหมายสำหรับการใช้ รวบรวม จัดเก็บ และเปิดเผย – ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)
6. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด
7. วัตถุประสงค์ในการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
8. ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
9. ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
10. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ (Transfer to Third Country)
11. ระยะเวลาการเก็บข้อมูล (Data Retention)
12. สิทธิของผู้ใช้บริการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
13. การเพิกถอนความยินยอม
14. การแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
15. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
16. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
17. การปรับปรุงนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
18. ช่องทางการติดต่อบริษัท
19. คุกกี้ (Cookie) พิกเซล (Pixel) ไอพี แอดเดรส (IP Address)

1. แนวทางการดำเนินการของบริษัท

เนื่องจากในการดำเนินการของบริษัทนั้น บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ บริษัทจึงมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ในบางกรณี) โดยบริษัทขอรับรองและรับประกันดังต่อไปนี้

 

  • 1.1 บริษัทจะใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
  • 1.2 บริษัทมีระบบรักษาความปลอดภัยและคุ้มครองการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
  • 1.3 บริษัทจะดำเนินการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ

2. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ให้นโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีผลบังคับใช้กับการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของผู้ใช้บริการจากธุรกรรมและการให้บริการทุกประเภทระหว่างผู้ใช้บริการกับบริษัท

3. หลักการในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้หลัก 6 ประการดังต่อไปนี้

 

  • 3.1 ชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม และโปร่งใส
    • บริษัทได้ใช้ รวบรวม จัดเก็บ เปิดเผยและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามที่บริษัทได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ หรือตามที่เงื่อนไขหรือข้อกำหนดในสัญญาระหว่างบริษัทกับผู้ใช้บริการ ข้อมูลดังกล่าวจะจัดเก็บในรูปแบบกระดาษและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ตามลักษณะและวัตถุประสงค์ของงานตามความยินยอมหรือสัญญา โดยการใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยจะอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กฎหมายกำหนดและตามวัตถุประสงค์การใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งแก่ผู้ใช้บริการ ในขณะที่บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว
  • 3.2 วัตถุประสงค์การจัดเก็บ
    • บริษัทจะใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้เก็บรวบรวมมาหรือตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามขอบเขตหน้าที่การงานตามที่ระบุไว้เท่านั้น
  • 3.3 การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น
    • บริษัทจะใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น เว้นแต่กฎหมายระบุให้ดำเนินการเพิ่มเติม หรือใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยเพื่อป้องกันผลประโยชน์ได้เสียโดยชอบธรรมของบริษัท
  • 3.4 ความถูกต้องของข้อมูล
    • บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบให้ข้อมูลส่วนบุคคลมีความถูกต้อง ทันสมัย และสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้โดยเร็ว
  • 3.5 การจำกัดเวลาการเก็บข้อมูล
    • บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ไม่เกินระยะเวลาเท่าที่จำเป็นหรือระยะเวลาตามกฎหมายสำหรับวัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนด เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้จัดเก็บเพิ่มเติมหรือเพื่อป้องกันผลประโยชน์ได้เสียโดยชอบธรรมของบริษัท
  • 3.6 ความสมบูรณ์และการรักษาความลับ
    • บริษัทจะใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสำหรับข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความควบคุมของบริษัทถูกเข้าถึงโดยไม่ชอบ สูญหาย หรือถูกทำลายโดยบุคคลภายนอกหรือถูกใช้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

4. หลักเกณฑ์ทางกฎหมายสำหรับการใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผย – ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะไม่ใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ เว้นแต่กรณีที่เป็นการกระทำตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือมีกฎหมายหรือสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายให้สามารถดำเนินการได้ ซึ่งหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่บริษัทจะใช้เพื่อรองรับการใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังกล่าว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • 4.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
    • ใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพื่อใช้ปฏิบัติตามสัญญา หรือข้อกำหนดหรือเงื่อนไขใดๆ ที่กำหนดในสัญญา หรือแนวทางในการปฏิบัติตามสัญญาของบริษัท
  • 4.2 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
    • การเปิดเผยข้อมูลข้อมูลแก่หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจเมื่อมีคำสั่งศาล หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานรัฐ
  • 4.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) ของบริษัทและบริษัทย่อยในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้น แต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    • การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทและประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเพื่อตรวจสอบและ รักษาความปลอดภัย รวมถึงพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัท
    • การบันทึกภาพหรือข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้บริการของบริษัทซึ่งเป็นโดยปกติธุระโดยทั่วไป หรือเพื่อ
      ป้องกันรักษาความปลอดภัยในการรักษาข้อมูลความลับของบริษัท

5. หลักเกณฑ์ทางกฎหมายสำหรับการใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผย – ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data)

บริษัทจะไม่ใช้ รวบรวม จัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ของผู้ใช้บริการ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้บริการ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีฐานทางกฎหมายรองรับให้สามารถดำเนินการได้ตามที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น

 

  • 5.1 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
    • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เช่น ข้อมูลสุขภาพ หมู่เลือด หรือความเชื่อทางศาสนาแก่เจ้าหน้าที่พยาบาลหรือโรงพยาบาลเพื่อการรักษาชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้บริการ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้บริการ และผู้ใช้บริการไม่มีสติไม่สามารถให้ความยินยอมได้
  • 5.2 เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอม โดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    • การเปิดเผยชื่อ นามสกุล และรูปภาพของผู้ใช้บริการ ซึ่งผู้ใช้บริการได้เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ด้วยความยินยอมของผู้ใช้บริการ
  • 5.3 เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง
    • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ ข้อมูลสุขภาพ หมู่เลือด หรือความเชื่อทางศาสนา แก่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานสาธารณสุขในกรณีที่เกิดการระบาดของโรคติดต่อในบริเวณที่ตั้งของบริษัท หรือเกี่ยวข้องกับบริษัทการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ ข้อมูลสุขภาพ หมู่เลือด หรือความเชื่อทางศาสนา แก่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานสาธารณสุขในกรณีที่เกิดการระบาดของโรคติดต่อในบริเวณที่ตั้งของบริษัท หรือเกี่ยวข้องกับบริษัท
  • 5.4 เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น
    • การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวิเคราะห์วิจัย เพื่อพัฒนา บริการทางวิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เช่น การประมวลผลข้อมูลผ่านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น

6. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

การใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ ด้วยวิธีการใดๆ ซึ่งอาจเป็นรูปแบบเอกสาร หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท หรือเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของบริษัทเท่านั้น

 

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการได้รับทราบและให้ความยินยอมแก่บริษัทในการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการด้วยวิธีการให้ความยินยอมทางเอกสาร ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือรูปแบบอื่นใดตามที่บริษัทกำหนด เพื่อใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนด นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) อาทิเช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น ทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันในกรณีที่ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) ดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ บริษัทอาจใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้

  • 1) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัด
  • 2) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • 3) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
  • 4) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  • 5) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัทเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท
  • 6) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น
  • 7) เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้บริการ
  • 8) เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  • 9) เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

7. วัตถุประสงค์ในการใช้ รวบรวม จัด เก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อประโยชน์ให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงให้บริการอื่นที่ผู้ใช้บริการสนใจ หรือเพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลและใช้ข้อมูลเพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ตามความสนใจของผู้ใช้บริการ หรือเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ของบริษัท และ/หรือบุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทน หรือมีความเกี่ยวข้องกับบริษัท และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับบริษัท ทั้งที่ประกาศบังคับใช้แล้วหรืออาจประกาศบังคับใช้ในอนาคต และ/หรือประโยชน์อื่นใดในการประกอบธุรกิจและดำเนินธุรกิจของบริษัท

 

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทย่อย พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท และ/หรือบุคคล/บริษัทอื่นใดที่มีความสัมพันธ์ทางกฎหมายหรือธุรกิจกับบริษัท โดยผู้ใช้บริการยินยอมให้บริษัท ส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลหรือบริษัทอื่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้

8. ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ ตามความยินยอมของผู้ใช้บริการโดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลของบริษัท และวัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนดเท่านั้น ในการนี้ บริษัทจะกำกับดูแลพนักงาน เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้ใช้และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่

 

  • 1) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อ ระโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำ สถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
  • 2) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • 3) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วน บุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้นเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตาม คำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
  • 4) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  • 5) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท
  • 6) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น
  • 7) เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของผู้ใช้บริการ
  • 8) เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
  • 9) เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

ทั้งนี้ บริษัทอาจใช้บริการของผู้ให้บริการอื่นซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อให้ดำเนินการเก็บรวบรวม เก็บรักษา ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการนอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด

นอกจากนี้ บริษัทอาจใช้ขั้นตอนการตัดสินใจอัตโนมัติที่จะประมวลผลข้อมูลของผู้ใช้บริการผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในบางกรณี ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการอาจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

9. ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญในการทำให้มั่นใจถึงการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ บริษัทพยายามที่จะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามความยินยอมที่ผู้ใช้บริการได้ให้ไว้แก่บริษัท หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาของบริษัท

 

ผู้บริหาร พนักงาน เจ้าหน้าที่ ของบริษัท รวมทั้งบุคคลภายนอกที่มีสัญญาให้บริการแก่บริษัทเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นและคู่สัญญาอื่นๆ ที่กระทำในนามบริษัทจะเป็นผู้ได้รับและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ บริษัทจะเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลกับผู้ให้บริการเหล่านั้นเท่าที่จำเป็นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้บริการและเพื่อปกป้องส่วนได้เสียของบริษัทเท่านั้น และบริษัทตกลงที่จะป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากการใช้ การเข้าถึงหรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใช้บริการอาจติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของผู้ให้บริการที่บริษัทจะมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้ทราบ\

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทย่อย พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท และ/หรือบุคคล/บริษัทอื่นใดที่มีความสัมพันธ์ทางกฎหมายหรือธุรกิจกับบริษัท โดยผู้ใช้บริการยินยอมให้บริษัท ส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลหรือบริษัทอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการกิจการของบริษัท หรือเพื่อการปฏิบัติตามนโยบายหรือประกาศที่บริษัทจะกำหนดเป็นกรณีๆ ไป หรือเพื่อปกป้องประโยชน์ได้เสียหรือสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท

10. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ (Transfer to Third Country)

บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการของบริษัทเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการตกลงให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการออกนอกประเทศไทยไปยังบุคคลหรือหน่วยงานที่อยู่ในประเทศอื่น หรือภายใต้เขตอำนาจกฎหมายของประเทศอื่น ไม่ว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศนั้นอาจถึงเกณฑ์หรือไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการคุ้มครองรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในระดับเดียวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย

11. ระยะเวลาการเก็บข้อมูล (Data Retention)

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไม่เกินระยะเวลาเท่าที่จำเป็นหรือระยะเวลาตามกฎหมายสำหรับวัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนดเท่านั้น ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

12. สิทธิของผู้ใช้บริการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ใช้บริการในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิตามกฎหมายดังต่อไปนี้

 

  • 12.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะตรวจสอบว่าบริษัทได้ดำเนินการใดกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่บริษัทได้เก็บรวบรวมเอาไว้ รวมถึงมีสิทธิที่จะขอรับสำเนาข้อมูลดังกล่าวจากบริษัท
  • 12.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
    • บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่บริษัทเก็บรวบรวมมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการสามารถขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลของผู้ใช้บริการได้ หากผู้ใช้บริการเห็นว่าข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทไม่ถูกต้อง และบริษัทจะทำการตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้องต่อไป
  • 12.3 สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะขอให้บริษัททำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการได้ เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัท ทั้งนี้ เมื่อบริษัทได้รับคำขอจากผู้ใช้บริการ บริษัทจะทำการตรวจสอบคำขอและดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนโดยเร็ว ทั้งนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์และมาตรการที่กฎหมายกำหนด
  • 12.4 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัท
  • 12.5 สิทธิในการขอให้โอนหรือส่งข้อมูล
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ในกรณีที่บริษัทได้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปให้บุคคลภายนอก เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัทผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ในกรณีที่บริษัทได้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้ งานโดยทั่วไปได้ ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปให้บุคคลภายนอก เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัท
  • 12.6 สิทธิในการคัดค้าน
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะคัดค้านการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ในกรณีที่พบว่ามีการใช้ รวบรวม จัดเก็บ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เว้นแต่การดำเนินการดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อบริษัท
  • 12.7 สิทธิในการขอให้ระงับการประมวลผลโดยระบบอัตโนมัติ หรือ Artificial Intelligence (AI)
    • ผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะคัดค้านหรือขอให้ระงับมิให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยระบบอัตโนมัติหรือ Artificial Intelligence (AI) ได้

ทั้งนี้ การที่ผู้ใช้บริการไม่ยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ หรือผู้ใช้บริการให้บริษัทดำเนินการลบข้อมูล ส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ อาจส่งผลให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากบริษัท หรืออาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการ แก่ผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอของผู้ใช้บริการ ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้สามารถกระทำได้หรือตามคำสั่งของหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจ คำสั่งศาล หรือในกรณีที่การดำเนินการตามคำขอจะก่อให้เกิดผลกระทบและความเสีย หายต่อบริษัท

ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากระบบนั้น บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการ
ดำเนินการลบข้อมูลของผู้ใช้บริการออกจากระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการตกลงรับทราบว่าบริษัทอาจยังคงบันทึกหรือทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ หรือระบบสำรองของบริษัท เพื่อสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาดบกพร่องหรือขัดข้องแก่ระบบของบริษัท รวมถึงเพื่อเก็บเป็นพยานหลักฐาน หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ การใช้สิทธิของผู้ใช้บริการจะต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนด ประกาศ และระเบียบที่บริษัทกำหนด ซึ่งจะเป็นไปตามหลัก
เกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทและหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทกำหนด โดยในการใช้สิทธิข้างต้น ผู้ใช้บริการจะต้องส่งคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามรายละเอียดที่กำหนดในข้อ 15. ของประกาศฉบับนี้

13. การเพิกถอนความยินยอม

หากผู้ใช้บริการไม่ประสงค์ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอีกต่อไป ผู้ใช้บริการสามารถเพิกถอนความยินยอมได้โดยการทำคำร้องแจ้งมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทหากผู้ใช้บริการไม่ประสงค์ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการอีกต่อไป ผู้ใช้บริการสามารถเพิกถอนความยินยอมได้โดยการทำคำร้องแจ้งมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

 

ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ข้อกำหนด ประกาศ หรือระเบียบที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทกำหนด

14. การแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่ผู้ใช้บริการทราบถึงการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทขอความอนุเคราะห์ผู้ใช้บริการกรุณาแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ตามรายละเอียดที่กำหนดในข้อ 18. ของประกาศฉบับนี้ภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการป้องกันแก้ไขของบริษัทจากการละเมิดดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการ

15. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Office: DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่ง ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งยังเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการกำกับการบริหารข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่กำหนดบริษัทได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Office: DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่ง ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งยังเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการกำกับการบริหารข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่กำหนด

16. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

บริษัทมีนโยบายและโปรแกรมรักษาความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และป้องกันการสูญหาย ทำลาย เข้าถึง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยมิชอบที่พนักงานของบริษัทต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกในความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและการรับผิดชอบด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่อาจรับรองได้ว่าจะไม่มีความบกพร่องหรือความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ดังนั้น บริษัทจึงขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธความรับผิดในความเสียหายหรือสูญหายใดๆ ที่เกิดขึ้นในทุกกรณีบริษัทมีนโยบายและโปรแกรมรักษาความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และป้องกันการสูญหาย ทำลาย เข้าถึง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยมิชอบที่พนักงานของบริษัทต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกในความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและการรับผิดชอบด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่อาจรับรองได้ว่าจะไม่มีความบกพร่องหรือความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ดังนั้น บริษัทจึงขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธความรับผิดในความเสียหายหรือสูญหายใดๆ ที่เกิดขึ้นในทุกกรณี

17. การปรับปรุงนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนี้ โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า ดังนั้น บริษัทจึงขอให้ผู้ใช้บริการหมั่นตรวจสอบนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างสม่ำเสมอ

18. ช่องทางการติดต่อบริษัท

หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยกเลิกบัญชี แจ้งเกี่ยวกับปัญหาการใช้งาน และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถกรอกรายละเอียดในแบบคำขอใช้สิทธิข้อมูลส่วนบุคคล และส่งมายังอีเมล wann.info@gmail.comหรือติดต่อบริษัทได้ที่
บริษัท แวนน์ คอสเมติกส์ แอนด์ แลบอราทอรี จำกัด
เลขที่ 40 ซอยสินสาคร ถนนพระราม 2 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร สมุทรสาคร 74000
อีเมล: wann.info@gmail.com โทร : 034-813055-8 เว็บไซต์: https://wanncosmetics.co.th/contact

19. คุกกี้ (Cookie) พิกเซล (Pixel) ไอพี แอดเดรส (IP Address)

นอกจากข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างผ่านเทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (Cookie) พิกเซล (Pixel) ไอพี แอดเดรส (IP Address) และแหล่งเก็บข้อมูลบนเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของผู้ใช้ รวมถึงเครื่องมือเก็บข้อมูลของบุคคลภายนอก เช่น ผู้ให้บริการด้านการตลาดหรือวิเคราะห์ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีประเภทนี้โดยตรงบนเว็บไซต์

 

คุกกี้คืออะไร?

คุกกี้ คือ ไฟล์ขนาดเล็กที่จะถูกดาวน์โหลดและจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของท่าน เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของท่านแต่อย่างใด ในการนี้ คุกกี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำความชื่นชอบและประวัติการใช้งานของท่าน และคุกกี้จะนำข้อมูลดังกล่าวที่บันทึกเอาไว้ในคุกกี้มาใช้เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือนำมาแสดงผลเพื่อการให้บริการตามที่ท่านร้องขอเป็นครั้งคราว

คุกกี้จะบอกให้บริษัททราบว่าท่านเข้าใช้งานส่วนใดของเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อที่บริษัทจะสามารถให้บริการข้อมูลได้ตรงกับความต้องการของท่านได้ นอกจากนี้ คุกกี้จะช่วยให้ท่านเข้าถึงข้อมูลเฉพาะเจาะจงที่ท่านร้องขอโดยอัตโนมัติ เว้นแต่กรณีที่ท่านได้ลบคุกกี้ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ของท่าน

ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยคุกกี้

ท่านตกลงยินยอมและรับทราบว่าคุกกี้ในเว็บไซต์ของบริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้โดยอัตโนมัติ

  • ข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ (Log File) เช่น หมายเลขไอพีแอดเดรส (IP Address) ของท่าน และวันที่และเวลาที่ท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ
    บริษัท
  • รายละเอียดและพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เช่น หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเยี่ยมชม และหน้าเว็บไซต์ที่ท่านเยี่ยมชมเป็นลำดับสุดท้าย
    ก่อนที่ท่านจะออกจากเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ที่เยี่ยมชมและระยะเวลาที่ใช้ในการเยี่ยมชม
  • บัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน (Username and Password) ของท่าน ในกรณีที่ท่านเลือกให้เว็บไซต์ “จดจำรหัสผ่าน” ของท่าน
  • ประเภทของเว็บเบราว์เซอร์ (Browser) ที่ใช้ในการเยี่ยมชมเว็บไซต์
  • โดเมนเนมของเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงท่านเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท
  • ตำแหน่ง (Location) ของท่าน

บริษัทจะนำหมายเลขไอพีแอดเดรส (IP Address) หรือข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมข้างต้นไปใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อปกป้องผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดในนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ของบริษัทเท่านั้น

ประเภทคุกกี้ที่บริษัทใช้งาน

คุกกี้ที่บริษัทใช้ในเว็บไซต์ของบริษัท มีดังต่อไปนี้

  • 1) คุกกี้ประเภทที่จำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly necessary cookies): คือ คุกกี้ที่จำเป็นและมีความ สำคัญต่อการทำงานของเว็บไซต์ของบริษัทที่ทำให้เว็บไซต์ของบริษัทสามารถทำงานได้เป็นปกติ
  • 2) คุกกี้ประเภทการทำงาน (Preferences/Functionality cookies): คือ คุกกี้ที่บริษัทใช้เพื่อจดจำตัวตนและกิจกรรมของท่านขณะเยี่ยมชม เว็บไซต์ของบริษัท โดยคุกกี้จะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพื่อให้เว็บไซต์สามารถให้บริการแก่ท่าน เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในครั้งถัดไป โดยไม่ต้องตั้งค่าเว็บไซต์อีกครั้ง
  • 3) คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล (Analytic/Performance cookies): คือ คุกกี้ที่บริษัทใช้เพื่อติดตามข้อมูลทางสถิติ เช่น จำนวนผู้เยี่ยมชม
    เว็บไซต์และหน้าเว็บไซต์ที่เยี่ยมชม รวมถึงลักษณะและพฤติกรรมของผู้ใช้บริการที่ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท สำหรับวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อ พัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัท

ท่านสามารถดูรายละเอียดคุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ที่บริษัทใช้ได้ดังนี้

1. Google Analytics

โดเมนคุกกี้ : _ga, _gid _ga_

จุดประสงค์ : เพื่อรายงานและทำความเข้าใจผลการดำเนินงานของเว็บไซต์และช่องทางประสบการณ์ของลูกค้าของบริษัท เช่น

  • ข้อมูลผู้ใช้งาน และจำนวนหน้าที่อ่าน
  • ข้อมูล ช่องทางการเข้าสู่เว็บไซต์ ข้อมูล ช่องทางการเข้าสู่เว็บไซต์
  • ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เช่น ระยะเวลา เนื้อหาที่ นิยม และกิจกรรมอื่นๆ ระหว่างเข้าชม
  • ข้อมูลส่วนบุคคล ในระดับภาพรวม โดยไม่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น อายุ เพศ อุปกรณ์ที่ใช้ และที่ตั้ง

ระยะเวลาจัดเก็บ : คุกกี้ถาวร

2. Facebook Pixel

โดเมนคุกกี้ : fr
จุดประสงค์ :

  • เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้และผลิตภัณฑ์ในเครือข่าย Facebook ได้อย่างปลอดภัย
  • ทำให้บริษัทสามารถแสดงโฆษณาแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการบนพื้นฐานของกิจกรรมเหล่านั้น รวมถึงยังทำให้
    บริษัทสามารถจำกัดจำนวนครั้งที่คุณจะเห็นโฆษณา เพื่อให้คุณไม่ต้องดูโฆษณาเดียวกันซ้ำไปซ้ำมาได้อีกด้วย รวมถึงยังช่วยวัดผลการทำ งานของแคมเปญโฆษณาในเครือข่าย Facebook
  • เพื่อเป็นข้อมูลวิเคราะห์และการวิจัย บริษัทใช้คุกกี้เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่าผู้ใช้งานใช้ผลิตภัณฑ์ในเครือข่ายของ Facebook อย่างไร

ระยะเวลาจัดเก็บ : คุกกี้ถาวร
การลบและ/หรือการปิดกั้นคุกกี้

การที่ท่านเยี่ยมชมและใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัทถือว่าท่านได้ตกลงและให้ความยินยอมสำหรับการใช้คุกกี้ของบริษัทตามที่ระบุในนโยบายเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้นี้ ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะเพิกถอนความยินยอมสำหรับการใช้คุกกี้ดังกล่าว ท่านสามารถลบและ/หรือปิดกั้นคุกกี้ในเว็บเบราว์เซอร์ (Browser) ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของท่าน ดังนี้

  • Chrome
  • Firefox
  • Microsoft Edge
  • Internet Explorer
  • Safari for ios
  • Chrome for android
  • Chrome for ios

อนึ่ง บริษัทขอเรียนว่าการจำกัดการใช้งานคุกกี้ อาจส่งผลให้ท่านไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทได้ครบทุกส่วน

การแก้ไขนโยบายเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้

บริษัทสงวนสิทธิที่จะปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้นี้ตามที่บริษัทเห็นสมควร ท่านจึงควรตรวจสอบนโยบายนี้เป็นระยะๆ เพื่อให้ทราบถึงการปรับปรุงและการแก้ไขดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของท่านเอง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save